หลอด ไฟ มีกี่ประเภท แต่ละประเภทต่างกันอย่างไร?

Keen Adventurers & Travel Enthusiasts  > Lighting product >  หลอด ไฟ มีกี่ประเภท แต่ละประเภทต่างกันอย่างไร?
หลอดไฟ แอลอีดี
| | 0 Comments

หลอดไฟ เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ทุกคนคุ้นเคยกันมาก ดูเหมือนเป็นสิ่งของง่ายๆทั้งที่จริงแล้วมันคือสุดยอดสิ่งประดิษฐ์ที่พลิกโฉมโลกกันเลยก็ว่าได้ เพราะลองคิดดูนะว่าถ้าเราไม่มีหลอดไฟชีวิตจะเปลี่ยนไปอย่างไร เราต้องกลับมาใช้แสงสว่างจากธรรมชาติหรืออย่างดีสุดก็ตะเกียงหรือเทียน เราจะใช้ชีวิตในเวลากลางคืนไม่สะดวกอีกต่อไป ส่งผลกระทบตั้งแต่ระดับครอบครัวไปจนถึงเศรษฐกิจโลกกันเลยทีเดียว ดังนั้นเมื่อมีความสำคัญมากขนาดนี้หลอด ไฟ จึงถูกพัฒนาอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งปัจจุบันเรามี หลอดไฟ หลายชนิดหลายขนาดให้เลือกใช้ ว่าแต่จะมีอะไรกันบ้างนั้น มาดูกันค่ะ

หลอดไฟ คืออะไร?
  1. หลอด ไฟประเภทหลอดไส้ เป็นหลอดไฟยุคแรกที่ด้านในมีไส้หลอดที่ผลิตจากทังสเตน กลไกการเกิดแสงคือจ่ายกระแสไฟฟ้าผ่านไส้หลอดจนเกิดความร้อนมากพอที่จะเปล่งแสงได้ ยิ่งร้อนมากเท่าไรแสงยิ่งสว่างมากขึ้นโดยแสงที่จะได้นั้นเป็นสีเหลืองส้ม เป็นหลอดที่กินไฟและมีอายุการใช้งานสั้น ราคาถูก
  2. หลอด ไฟประเภทหลอดฮาโลเจน มีไส้หลอดและมีหลักการทำงานคล้ายหลอดไส้ เพียงแต่หลอดฮาโลเจนจะบรรจุสารตระกูลฮาโลเจนลงไปด้วย จึงทำให้หลอด ไฟประเภทนี้ให้ความสว่างมากกว่า ให้แสงสีขาวถูกต้อง 100% และมีอายุการใช้งานที่นานกว่าหลอดไส้
  3. หลอด ไฟประเภทหลอดแสงจันทร์ หลอดประเภทนี้ทำงานโดยใช้หลักการปล่อยประจุจากไอปรอท แสงที่ได้จะออกเหลืองนวลคล้ายแสงจันทร์ สีของแสงไม่ค่อยถูกต้องแต่ให้ความสว่างค่อนข้างสูง เมื่อเปิดแล้วกว่าจะส่องแสงได้เต็มที่ต้องใช้เวลาสักพักหนึ่ง พอปิดแล้วก็ต้องใช้เวลามากพอสมควรถึงจะเปิดใช้งานใหม่ได้ ปัจจุบันนี้ไม่เป็นที่นิยมใช้เนื่องจากดูแลรักษายากและมีส่วนประกอบของสารปรอท ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายและสิ่งแวดล้อม
  4. หลอด ไฟประเภทหลอดเมทัลลาไฮด์ หรือหลอดทังสเตน เป็นหลอดไฟที่ให้ความเข้มแสงสูง ดูใกล้เคียงกับแสงแดด มีกลไกการเกิดแสงคล้ายหลอดแสงจันทร์แต่สว่างกว่ามาก อายุการใช้งานนานกว่า เหมาะสำหรับใช้งานในสถานที่ที่ต้องการความถูกต้องของสีมาก
  5. หลอด ไฟประเภทหลอดฟลูออเรสเซนต์ หรือหลอดนีออนเป็นหลอดที่บรรจุก๊าซไว้ด้านในและเคลือบสารเรืองแสงไว้ที่ผิวหลอดด้านในอีกที เมื่อปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าไปกระทบกับก๊าซ ก๊าซจะแตกตัวเป็นไออนจนเกิดเป็นรังสี UV ทำให้เกิดแสงสว่างขึ้นมา แสงค่อนข้างนวลตาและอบอุ่นแต่จะทำให้สีของวัตถุเพี้ยนไปจากความจริง ทำงานร่วมกับบัลลาสต์และสตาร์ทเตอร์
  6. หลอด ไฟประเภทคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ มีหลักการทำงานคล้ายหลอดฟลูออเรสเซนต์ มีทั้งแบบมีบัลลาสต์ในตัวและแบบแยก มีหลายรูปทรง หลายขนาด หลายสี อายุการใช้งานนานกว่าหลอดฟลูออเรสเซนต์ธรรมดา
  7. หลอด ไฟประเภท led มีกลไกการเกิดแสงต่างจากหลอดประเภทอื่นคือ ใช้หลักการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนภายในสารกึ่งตัวนำ มันจึงช่วยลดข้อด้อยของหลอดไฟเกือบทุกประเภท เพราะไม่มีไส้หลอด ไม่มีโลหะหนักและสารอันตราย ทนทานเพราะไม่ได้ทำจากแก้ว ให้ความสว่างมากแต่สบายตา อายุการใช้งานยาวนาน เป็นต้น

                โดยรวมแล้วหลอด ไฟ led ได้เปรียบในทุกแง่มุม ประสิทธิภาพดีกว่า ปลอดภัยกว่า อัตราการกินไฟน้อยกว่าแล้วใช้งานได้นานไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ ดังนั้นบ้านไหนใช้หลอด ไฟแบบอื่นอยู่ รีบเปลี่ยนมาใช้หลอด led กันเถอะค่ะ